082 828 3388

เวลาเปิดบริการ : จ - ศ 09:00 - 20:00, ส - อ 09:00 - 19:00

ติดตามเรา :

จัดฟัน

จัดฟันกับยิ้มแฉ่งทันตกรรม: ดูแลรอยยิ้มให้สวยและมั่นใจ

การจัดฟัน (Orthodontics) ที่ยิ้มแฉ่งทันตกรรม เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน การสบฟัน รวมถึงความสัมพันธ์ของขากรรไกรต่อใบหน้าอย่างเหมาะสม การจัดฟันไม่ได้เพียงช่วยเสริมความงามของรอยยิ้ม แต่ยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพ ดังนี้:

  • เพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว: ฟันเรียงตัวดีช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารสมบูรณ์
  • ลดความเสี่ยงโรคในช่องปาก: ป้องกันฟันผุและโรคเหงือกที่เกิดจากการทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึง
  • ป้องกันฟันสึกผิดปกติ: ลดปัญหาการสึกของฟันที่เกิดจากการสบฟันที่ไม่เหมาะสม
  • เสริมสร้างบุคลิกภาพ: ยิ้มมั่นใจมากขึ้นเมื่อมีฟันเรียงตัวสวยงาม
  • การจัดฟันใสที่ยิ้มแฉ่งทันตกรรม: ทางเลือกที่ทันสมัย

    การจัดฟันใส (Clear Aligner) คือการจัดฟันที่ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี AI และซอฟต์แวร์คำนวณเพื่อออกแบบพลาสติกใสเฉพาะบุคคล คุณสมบัติเด่นของการจัดฟันใสกับยิ้มแฉ่งทันตกรรม ได้แก่:

  • ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการออกแบบการเคลื่อนฟัน
  • มีปุ่ม Attachment ช่วยเคลื่อนฟันตามแผน
  • ใส่อุปกรณ์วันละ 20-22 ชั่วโมง เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ
  • โปร่งใสและมองเห็นได้ยาก เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจในความสวยงาม
  • แบรนด์จัดฟันใสยอดนิยมที่ยิ้มแฉ่งทันตกรรม
    ที่ยิ้มแฉ่งทันตกรรม เราเลือกแบรนด์จัดฟันใสชั้นนำที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ได้แก่:

    1. Invisalign: แบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในวงการทันตกรรม

    วิธีเลือกจัดฟันใสที่เหมาะกับคุณ

    1. ปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ้มแฉ่งทันตกรรม:
    เลือกทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านการจัดฟันใส เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

    2. พิจารณาความซับซ้อนของฟัน:
    หากฟันซ้อนเกมากหรือเคสยาก ควรเลือกแบรนด์ที่รองรับการรักษาเคสซับซ้อนได้

    3. งบประมาณ:

    แบรนด์ดัง เช่น Invisalign อาจเหมาะกับผู้ที่ต้องการความแม่นยำสูง
    เคสง่ายสามารถเลือกแบรนด์ที่ราคาย่อมเยาแต่คุณภาพดี เช่น Dr.Clear หรือ BeforeDent
    บริการหลังการขาย:
    ยิ้มแฉ่งทันตกรรมใส่ใจบริการหลังการรักษา พร้อมดูแลทุกคำถามหรือปัญหา

    4. ความสะดวกในการเดินทาง:
    ยิ้มแฉ่งทันตกรรมตั้งอยู่ในทำเลสะดวก มีที่จอดรถ และเวลาทำการที่เหมาะสม

    การจัดฟันโลหะ: ดูแลรอยยิ้มให้สมบูรณ์แบบ

    การจัดฟันโลหะ เป็นวิธีการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยใช้เครื่องมือที่ติดลงบนผิวหน้าฟัน ร่วมกับลวดจัดฟันที่ช่วยในการเคลื่อนฟัน และยางสีต่าง ๆ สำหรับยึดลวด ทั้งนี้ การจัดฟันโลหะไม่เพียงช่วยปรับฟันให้เรียงตัวสวยงาม แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาว

    ส่วนประกอบหลักของการจัดฟันโลหะ
    1. แบร็กเก็ต (Brackets):

    • ชิ้นส่วนโลหะขนาดเล็กติดบนผิวฟัน
    • ผลิตจาก สแตนเลสสตีล ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นสนิม
    • มีร่องสำหรับยึดลวดและปีกเล็ก ๆ สำหรับมัดยาง

    2. ลวด (Archwires):

    • ผลิตจากวัสดุเช่น นิกเกิล และ ไทเทเนียม
    • เป็นตัวสร้างแรงดึงเพื่อเคลื่อนฟันตามแผนการรักษา

    3. ตัวยึด (Ligatures):

    • ทำหน้าที่ยึดลวดไว้กับแบร็กเก็ต
    • วัสดุยอดนิยมคือ “ยาง” ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีได้บ่อยครั้ง
      นอกจากนี้ ในบางเคสอาจมีการใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ยางดึงฟัน เชน สปริง หมุดจัดฟัน หรือไบท์เทอร์โบ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด
    ขั้นตอนการจัดฟันโลหะ
    1 . ปรึกษาทันตแพทย์: ตรวจช่องปากและวางแผนการรักษา
    2. ถ่าย X-ray และสแกนฟัน: เพื่อเก็บข้อมูลโครงสร้างฟัน
    3. เคลียร์ช่องปาก: แก้ปัญหาสุขภาพช่องปากให้พร้อมก่อนเริ่มจัดฟัน
    4. ติดตั้งเครื่องมือจัดฟัน: ตามแผนที่ทันตแพทย์กำหนด
    5. ปรับเครื่องมือ: เข้าพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อปรับลวดและติดตามผล
    6. ถอดเครื่องมือ: เมื่อการจัดฟันเสร็จสมบูรณ์
    7. ใส่รีเทนเนอร์: เพื่อป้องกันการล้มของฟัน
    การจัดฟันแบบเซรามิก: สวยงามและมองเห็นได้น้อย

    การจัดฟันแบบเซรามิก เป็นการจัดฟันที่ใช้หลักการเดียวกับการจัดฟันโลหะ แต่แตกต่างกันที่วัสดุของแบร็กเก็ต ซึ่งทำจาก เซรามิกสีเหมือนฟัน และใช้ยางรัดสีใส ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความโดดเด่นของเครื่องมือจัดฟัน

    จุดเด่นของการจัดฟันแบบเซรามิก

  • สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันได้ยาก
  • ให้ผลลัพธ์เหมือนการจัดฟันโลหะแต่เน้นความสวยงาม
  • ทำไมต้องเลือกจัดฟันที่ยิ้มแฉ่งทันตกรรม?
  • ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใส่ใจในทุกขั้นตอน
  • อุปกรณ์คุณภาพสูง ปลอดภัย และทันสมัย
  • บริการติดตามผลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง
  • สถานที่สะดวกสบาย มีที่จอดรถ
  • การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร: การแก้ปัญหาสบฟันและขากรรไกรที่ครอบคลุม

    การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร (Orthognathic Surgery) เป็นการรักษาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสบฟันผิดปกติ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของกระดูกขากรรไกร เช่น ขากรรไกรบนและล่างมีขนาดหรือรูปทรงที่ไม่สัมพันธ์กัน ส่งผลให้ฟันสบไม่เข้าที่และใบหน้าดูไม่สมส่วน

    ปัญหาที่การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรช่วยแก้ไขได้
  • ฟันซ้อนเกหรือฟันห่าง
  • ฟันบนหรือฟันล่างยื่น
  • ฟันสบลึก หรือฟันสบเปิด
  • ฟันกัดคร่อมหรือกัดเบี้ยว
  • ปัญหาขากรรไกรแคบหรือขนาดผิดปกติ
  • หากตรวจพบปัญหาในวัยเด็ก อาจแก้ไขด้วยเครื่องมือช่วยการเจริญเติบโตของขากรรไกร แต่สำหรับผู้ที่หยุดการเจริญเติบโตแล้ว มักต้องใช้วิธีการผ่าตัดร่วมกับการจัดฟัน
    ขั้นตอนการรักษา: การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

    1. การตรวจและวางแผนการรักษา

    • ตรวจการสบฟัน พิมพ์ปาก และถ่าย X-ray เพื่อประเมินปัญหา
    • ทันตแพทย์จะวินิจฉัยว่าปัญหาสบฟันผิดปกติเกิดจากกระดูกขากรรไกรหรือไม่
    • หากจำเป็นต้องผ่าตัด ควรปรึกษา ทันตแพทย์ศัลยกรรมช่องปากและขากรรไกร (Oral and Maxillofacial Surgeon) เพื่อวางแผนการรักษาโดยละเอียด

    2. การจัดฟันก่อนการผ่าตัด (Presurgical Orthodontics) 

    • ใช้เวลา 1–2 ปีในการจัดฟันเพื่อปรับตำแหน่งฟันบนขากรรไกรให้เหมาะสม
    • อาจต้องถอนฟันในบางกรณี เช่น ฟันซ้อนเกมาก
    • ฟันอาจดูเรียงตัวแย่ลงชั่วคราว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัด

    3. การผ่าตัดขากรรไกร (Orthognathic Surgery)

    • ทันตแพทย์พิมพ์ปากและ X-ray อีกครั้ง เพื่อจำลองการผ่าตัดและเตรียมเฝือกสบฟัน
    • การผ่าตัดทำในโรงพยาบาล โดยพักฟื้นในโรงพยาบาล 1–3 วัน และพักต่อที่บ้านอีก 2–4 สัปดาห์
    • แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลก่อนและหลังการผ่าตัด

    4. การจัดฟันหลังการผ่าตัด (Postsurgical Orthodontics) 

    • จัดฟันเพื่อปรับรายละเอียดและให้การสบฟันสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
    • ใช้หนังยางดึงฟันร่วมด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
    Surgery First: การผ่าตัดก่อนการจัดฟัน
    ในบางกรณี สามารถเลือกใช้วิธี Surgery First หรือการผ่าตัดก่อนจัดฟันได้ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทีมแพทย์และความซับซ้อนของปัญหา
    ข้อดีของการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
  • ปรับปรุงการสบฟันให้เหมาะสม
  • เสริมสร้างความสมดุลของรูปหน้าและขากรรไกร
  • เพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพ
  • ลดปัญหาในการเคี้ยวอาหารและพูด